เนื่องด้วย ภรรยาผมได้มีความผิดฐานยักยอกทรัพย์นายจ้างเป็นจำนวนเงินสามแสนกว่าบาทและได้รับโทษต่างกรรมต่างวาระตัดสินทั้งสิ้นเป็นจำนวน36เดือนตอนนี้ได้รับโทษไปปีกว่าๆและได้ทำเรื่องขอพักโทษเนื่องจากเข้าข่ายของระเบียบราชการที่กำหนดไว้
คำถามอยากเรียนสอบถามครับ
1.กรณีคดีอาญา(ยักยอกทรัพย์)ที่ได้รับโทษไปแล้วนั้นหลังพ้นโทษเจ้าทรัพย์สามารถฟ้องดำเนินคดีเดิมหรือสามารถกลับไปจำคุกอีกหรือไม่.
2.ผู้เสียหายจะบังคับให้ชดใช้หนี้ตามที่เจ้าหนี้กำหนดให้ได้หรือไม่.
3.เจ้าหนี้สามารุถบังคับเอาหนี้จากญาติที่ทำงานในบริษัทที่ๆภรรยากรัผมเคยทำซึ่งเป็นคู่กรณีของคดีนี้ได้หรือไม่.
4.ถ้าศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์แต่จำเลยไม่มีทรัพย์ให้ขายและยึดและได้จำคุกในคดีแล้ว...จะต้องรับโทษกลับไปจำคุกเช่นเดิมหรือไม่ครับ.
5.กรณี(ไม่โกง)แค่ถามเป็นปราชญ์ภูมิรู้ถ้าให้ศาลสั่งเป็นบุคคลล้มละลายแล้วเจ้าหนี้และลูกนี้จะเป็นเช่นไรและหลังจากนี้.
6.เจ้านี้สามารถบังคับเอาหนี้ทั้งหมดครั้งเดียวได้หรือไม่เพราะถ้ามีคงไม่จำคุก

1. เมื่อพ้นโทษแล้ว เจ้าหนี้ หรือโจทก์ ไม่สามารถฟ้องดำเนินคดีเดิมหรือเรียกร้องให้สามารถกลับไปจำคุกอีก เพราะทำผิดครั้งเดียว ต้องรับโทษครั้งเดียว
2. ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องเป็นคดีแพ่ง หรือบังคับคดีตามที่พนักงานอัยการมีคำขอท้ายฟ้องให้ชดใช้ และศาลพิพากษาให้ชดใช้ได้เท่านั้น
3. เจ้าหนี้ไม่สามารถบังคับเอาหนี้จากญาติ บุคคลในครอบครัว หรือบุคคลอื่นใดในที่ทำงานในบริษัทเคยทำได้ ยกเว้น บุคคลนั้นทำสัญญาค้ำประกันการทำงานไว้ และถูกฟ้องคดีแพ่งให้รับผิดตามสัญญาค้ำประกันแล้ว
4. ถ้าศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์แต่จำเลยไม่มีทรัพย์ให้ขายและยึดและได้จำคุกในคดีแล้ว ไม่ต้องรับโทษกลับไปจำคุกอีก เพราะขัดกับหลักกฎหมาย  
5. หากศาลพิพากษาให้ล้มละลายแล้ว โดยระหว่างนี้ไม่มีทรัพย์สินอื่นใดมาชำระหนี้ และต่อมาศาลมีคำสั่งให้ปลดล้มละลายแล้ว เจ้าหนี้ทุกรายไม่ว่าจะยื่นคำขอชำระหนี้ไว้แล้วหรือไม่ ก็จะหมดสิทธิได้รับชำระหนี้ คือ หนี้สูญหมด ลูกหนี้ก็ไม่มีหนี้ติดตัว จะมีแต่ประวัติว่าเคยถูกศาลพิพากษาล้มละลายเท่านั้น
6. เมื่อศาลตัดสินให้ชำระหนี้แล้ว ไม่ว่ามาจากคดีอาญาหรือคดีแพ่ง เจ้าหนี้มีสิทธิติดตามบังคับคดีให้ชำระหนี้ภายในเวลา 10 ปี โดยการยึดสามารถยึดครั้งเดียว หากทรัพย์สินนั้นมีมูลค่าพอกับยอดหนี้ หรือเกินกว่าหนี้ก็สามารถยึดได้ แต่หากลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ยึด ก็ทำอะไรลูกหนี้ไม่ได้