ได้ทำการเช่าชุดงานแต่งจ่ายค่ามัดจำชุดเป็นจำนวน 30,000 บาทเมื่อเดือนพฤษจิกายน 2559 เมื่อครบกำหนดทางร้านได้บ่ายเบี่ยงคืนเงินมัดจำ และเมื่่อเดือนมกราคมจึงพบว่าทางร้านได้ทำการปิดร้านหนีโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวกับลูกค้า ซึ๋งทางผมก็ได้ไปแจ้งกับที่สน.ใกล้เคียงร้านแล้ว
พบว่ายังมีลูกค้าที่เค้ามาแจ้งความเรื่องค้างค่ามัดจำชุดกับร้านนี้เป็นจำนวนมาก และบางคนก็มีค้างงานจัดพรีเวดดิ้งด้วย ซึ่งยอดเงินผุ้เสียหายรวมกันราวๆ 5ล้านบาท หรือมากกว่า


ผมจึงสอบถามว่าเคสของผมเป็นคดีความทางแพ่งใช่ไหมครับ และมีวิธีการดำเนินคดีอย่างไรครับ รวมตัวกันพ้องร้องคดีแพ่งได้ไหมครับ มีขั้นตอนการฟ้องอย่างไรบ้างครับ ค่าดำเนินคดีคร่าวๆเท่าไหร่ครับ
ขอบคุณครับ

เนื่องจากคุณทนายภูวรินทร์ติดธุระทำคดีที่ศาลต่างจังหวัดประมาณ 3-4 วัน ดิฉันจึงได้ฝากข้อความ เรื่องราวและคดีความรวมถึงทุกปัญหาที่ทุกท่านได้ฝากไว้ให้กับทางคุณทนายภูวรินทร์แล้วค่ะ 
ซึ่งคุณทนายภูวรินทร์ขอเรียนแจ้งว่า สำหรับทุกปัญหานั้นคุณทนายจะรีบกลับมาตอบให้อีกครั้งและจะติดต่อกลับทุกท่านที่มีความทุกข์ใจด้านกฎหมายค่ะ 
กรณีที่ต้องการสอบถามข้อกฎหมายเร่งด่วนนั้นสามารถติดต่อคุณทนายภูวรินทร์ได้ที่เบอร์  081-9250-144 
หรือสอบถามไปทางไลน์ ID LINE  081-9250-144 

 ขอขอบคุณและขออภัยในความล่าช้าค่ะ

      กรณีตามคำถาม การกระทำของร้านดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่ส่อให้เห็นถึงเจตนารับเงินมัดจำแล้ว ปิดร้านหนี ติดต่อไม่ได้ และมีผู้เสียหายจำนวนมาก  เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ซึ่งสามารถรวมตันกันแจ้งความดำเนินคดีอาญาได้ หรือฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้โดยตรง แต่การดำเนินคดีอาญาจะต้องนำสืบหรือมีพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงเจตนาของผู้กระทำผิดว่าตั้งใจที่จะไม่ปฏิบัติตามสัญญามาตั้งแต่แรกด้วย

      ส่วนการดำเนินคดีทางแพ่งนั้น สามารถรวมตัวกันเพื่อยื่นฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคได้ ขั้นตอนการฟ้องคดีอันดับแรกต้องรวบรวบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มอบให้ทนายความเพื่อนำไปร่างฟ้อง และยื่นฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งมีรายละเอียดมาก อัตราค่าทนายความขึ้นอยู่กับทนายความที่จะตกลงว่าจ้าง ซึ่งต้องตกลงกันระหว่างผู้ว่าจ้างกับทนายความ แต่ปัญหาของการฟ้องคดีแพ่งคือสภาพบังคับตามคำพิพากษาเป็นเพียงการยึด-อายัดทรัพย์สินเท่านั้น หากลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินให้ยึดหรืออายัด การฟ้องคดีแพ่งก็อาจลงทุนโดยไม่ได้รับเงินคืนกลับมา