สวัสดีครับ ผมรบกวนสอบถามเรื่องเกี่ยวกับการฟ้องร้อง ชดใช้เงินระหว่างแม่กับลูกหน่อยครับ โดยเรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อปี 2010 แม่ของผมได้ซื้อรถยนต์ให้ผม 1 คัน เป็นของขวัญเนื่องจากที่ผมเรียนจบ และบวชทดแทนบุญคุณให้แม่
โดยใช้เงินสดของแม่ซื้อจากศูนย์ ซึ่งภายหลังซื้อรถ แม่และผมได้ให้สัญญาใจกันว่า ผมจะส่งเงินให้แม่ทุกเดือนๆ เพื่อไม่ให้เราลืมกัน
เพราะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ซึ่งแม่ผมได้ให้ผมเขียนรายละเอียดลงไปในกระดาษหนึ่งแผ่นไว้ดังนี้ หลังจากนั้นผมก็ส่งเงินให้แม่เรื่อยมาทุกเดือน เป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่มีหลักฐานการส่งเงิน เนื่องจากเป็นแม่ลูกกัน ไม่ได้คิดอะไร


(ตัวอย่าง)
รายการยืมเงิน
1.รถยนต์ 1 คัน xxx,xxx บาท


ลงชื่อ..........(ตรงนี้เป็นชื่อผม)
วันที่ 30 ม.ค. 2554


ต่อมาภายหลังแม่ก้ได้ซื้อบ้านที่ กทม. ผมและน้องๆก็ย้ายมาทำงาน และเรียน โดยอยู่ในบ้านเดียวกัน
และเมื่อ ก.ย. 58ที่ผ่านมา ตัวผมได้แต่งงานและต้องการย้ายออกไปสร้างครอบครัวเอง เป็นเหตุให้แม่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่ผมก็ย้ายออกไปโดยไม่สนใจอะไร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีปากเสียงกับแม่ เนื่องจากแม่ผมไปทวงสินสอดคืนจากฝ่ายหญิง ผมจึงไม่พอใจ
และเมื่อเวลาผ่านไปหลังจากผมได้ย้ายออกมาจากบ้านนั้นแล้ว ผมได้กลับไปที่บ้านนั้นอีก เพื่อไปเอาข้าวของส่วนที่เหลือออกมา โดยที่ตอนเข้าบ้านนั้น
มีพ่อเลี้ยง และน้องของผมอยู่บ้านด้วย ผมก็เข้าไปเอาของ แต่พ่อเลี้ยงไม่ยอมให้ของที่เป็นของผมเอง ออกจากบ้าน โดยบอกว่าต้องขออนุญาตแม่ก่อน
ก็มีปากเสียงกัน เถียงกันไปมาจนพ่อเลี้ยงผมยอมให้เข้าบ้าน ผมจึงได้เข้าไปเอาของแล้วออกจากบ้านนั้นไป ต่อมาอีกสามสี่วัน เมื่อต้นเดือน ม.ค.59
พ่อเลี้ยงผม(ซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่) ได้นำหมายเรียกตัวมาส่งให้ผม ที่ออฟฟิศของผมในเวลาทำการราชการ โดยมาพร้อมร้อยเวรเจ้าของพื้นที่ นำรถมาปิดกั้นผม
ซึ่งในหมายเรียกนั้น ระบุข้อกล่าวหา ว่าผมบุกรุก และลักทรัพย์ (ทรัพย์นั้นคือ คีย์การ์ดเข้าหมู่บ้าน) หลังจากนั้นต่อมา ผมจึงได้สอบถามร้อยเวร ผู้รับแจ้งความ ว่าควรทำอย่างไรต่อไป
ร้อยเวรแนะว่าให้เจรจากัน เนื่องจากเป็นแม่ลูกกัน ไม่อยากให้ต้องสอบสวน ก็เลยเข้าขั้นตอนเจรจา คุยกันไปมา สรุปสุดท้ายได้ว่า แม่ผมต้องการเอารถผมคืน
หรือไม่ก็เอาเงินมา สามแสนแล้วจะถอนแจ้งความ ผมก็เลยคิดว่าจะให้การไปเลย ไม่ถอนก็ไม่ถอน เพราะผมไม่คืนรถและเงินให้อยู่แล้ว เนื่องจากผมไม่ได้ทำผิดอะไร

จากนั้น แม่ก็ได้เอาเอกสารฉบับดังกล่าวมาขู่ว่า ถ้าาไม่ให้เงินจะฟ้องตามจำนวนเงินที่ลงไว้ในเอกสารนั้น ผมจึงอยากสอบถามพี่ทนายว่า เอกสารลักษณะดังกล่าว

เข้าข่ายเป็นหนังสือกู้ยืมเงินที่ผมจะต้องชำระหนี้ตามนั้นหรือไม่ ตอนนี้ผมกลุ้มใจมากครับ เพราะแม่เองก็ทำตัวแย่กับผมเหลือเกิน รบกวนพี่ทนายด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงล่วงหน้าเลยครับ

****เนื่องจากทนายภูวรินทร์ ติดภารกิจศาลค่อนข้างมากไม่ได้เข้ามาตอบคำถาม****
จึงทำให้มีคำถามตกค้างเป็นจำนวนมาก      
ดังนั้น หากมีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องการได้รับคำตอบแบบทันใด
​รบกวนโทรศัพท์มาปรึกษาเพื่อพูดคุยข้อเท็จจริงกันจะสะดวกรวดเร็วมากกว่าครับ
หากโทรไม่ติด หรือไม่ได้รับ อาจเป็นเพราะติดคดีความในศาล ให้โทรมาใหม่อีกครั้ง
หรือพูดคุยกันในไลน์ก็ได้ครับจะสะดวกรวดเร็วกว่า
ผมยินดีให้คำปรึกษาครับ
ทนายภูวรินทร์ Tel. 081-925-0144 หรือ ID.LINE 0819250144