Max

Max

ผู้เยี่ยมชม

  ฟ้องเพื่อขอแยกโฉนดที่ดิน (3237 อ่าน)

9 ก.ย. 2558 10:15

เรียนถามครับ

มีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งในโฉนดที่ดินเป็นชื่อร่วมของพ่อผมและอา บนที่ดินมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านหนึ่งหลัง และโรงงานหนึ่งหลังอยู่บนโฉนดเดียวกัน อาอาศัยอยู่กับย่าผมบนที่ดินผืนนี้ แต่พ่อผมอาศัยอยู่อีกบ้านหนึ่ง(คนละที่กับโฉนดนี้) พ่อผมทำธุรกิจร่วมกับอาได้ระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาพ่อกับอาทะเลาะกันหลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่คุยกัน และไม่ทำธุรกิจร่วมกัน เรื่องที่ทะเลาะกันเป็น 10 ปีแล้วครับ แต่อย่างไรก็ตามพ่อผมก็มาเยี่ยมย่าอยู่เป็นครั้งเป็นคราวที่บ้านบนโฉนดผืนนี้ครับ ส่วนปัจจุบันอาตอนนี้ก้อไม่อยู่บ้านหลังนี้แล้ว ตอนนี้อาให้ลูกชายอยู่แทน

ขอถามดังนี้ครับ

1.ไม่ทราบว่าฝ่ายอาสามารถครอบครองครองปรปักษ์ที่ดินได้หรือไม่เนื่องจากได้ยินจากญาติว่าฝ่ายอาวางแผนที่จะครอบครองปรปักษ์ เพราะเห็นว่าพ่อผมไม่มาใช้ประโยชน์อะไรที่โรงงานเป็นเวลานานแล้ว (แต่พ่อยังมาเยี่ยมย่าที่บ้านอยู่เรื่อยๆแค่ไม่ไปเหยียบโรงงาน) ถ้าฝ่ายอาจะครอบครองปรปักษ์ เราสามารถฟ้องร้องกลับได้หรือไม่

2.ถ้าฝ่ายพ่อผมจะฟ้องร้องเพื่อขอแยกโฉนดที่ดินตอนนี้เลย ไม่ทราบว่า มีขั้นตอนอย่างไร และใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงศาลจะตัดสินสิ้นสุดและไม่ทราบว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดเท่าไหร่ในการจ้างทนายและดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบครับและขอทราบว่าสามารถมอบอำนาจให้ลูกชายทำเนินเรื่องทั้งหมดแทนได้หรือไม่

ถ้าสามารถฟ้องเพื่อขอแยกโฉนดที่ดินได้เลย ก็จะดำเนินการเลยครับ เพราะทะเลาะกันรุ่นพ่อและคุยกันไม่รู้เรื่องมานานมากแล้วจะได้จบๆกันไป ท่าทราบจำนวนเงินประมาณการที่ต้องใช้ทั้งหมดก็จะดีมากครับ

ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ

Max

Max

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

19 ก.ย. 2558 13:33 #1

1.  ที่ดินแปลงพิพาท มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ด้วยกันสองคน การที่คนใดคนหนึ่งครอบครองทั้งแปลง ถือว่าเป็นการครอบครองแทนเจ้าของร่วมคนอื่นด้วย การครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ถือเอาแค่ระยะเวลาว่าครบสิบปีแล้วก็จะได้สิทธิไปเลยทันที ไม่ใช่แบบนั้น การครอบครองปรปักษ์จะต้องเป็นการครอบครองโดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของด้วย ซึ่งข้อนี้สำคัญมาก อาจึงอ้างเรื่องว่าครอบครองปรปักษ์ได้ จะพูดยังไงก็ได้ แต่จะได้ตามที่อ้างหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องสืบให้ศาลเชื่อ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นน้อยมากเพราะไม่มีน้ำหนักเหมือนไปแย่งการครอบครองของบุคคลอื่นมา

2. ทางแก้ไขของเจ้าของร่วมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือ ต้องฟ้องเพื่อแบ่งแยกโฉนด หรือขายเอาเงินมาแบ่งกัน ซึ่งกฎหมายเปิดช่องให้สามารถทำได้อยู่แล้ว จะให้พ่อฟ้องเอง หรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นฟ้องแทนก็ได้ครับ ส่วนจะใช้เวลานานเท่าใด ไม่ต้องไปคิดมาก การมีคดีในศาลต้องเสียเวลามากอยู่แล้ว สิ่งสำคัญคือจะเริ่มต้นฟ้องเมื่อใดต่างหาก

ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขึ้นอยู่กับการตกลงพูดคุยกับทนายความที่จะว่าจ้างกันเท่านั้น จะไปสอบถามคนอื่นที่ไม่ได้ว่าจ้างก็คงไม่มีใครตอบแทนให้ได้ เพราะแม้จะเป็นคดีประเภทเดียวกัน ก็เรียกค่าบริการแตกต่างกัน ไม่มีราคามาตรฐานกลางกำหนดไว้ครับ และทนายความที่จะว่าจ้างควรอยู่ในจังหวัดที่มีคดีเกิดขึ้น เพราะทนายความจะพิจารณาค่าจ้างจากความยากง่าย จำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกัน ระยะเวลาในการสู้คดีกัน ระยะทางที่ต้องไปศาล เป็นต้นประกอบการเรียกค่าทนายด้วย ดังนั้น ผมไม่ทราบว่าคดีอยู่จังหวัดใด ข้อเท็จจริงอื่น ๆ ที่กล่าวมาเป็นอย่างไร จึงไม่สามารถตอบเรื่องค่าใช้จ่ายได้ครับ 

ทนายภูวรินทร์  081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้