ดิฉันได้รับทราบเรื่องจากพนักงานบริษัทเดียวกันว่าจะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทจากลูกค้าชายคนหนึ่ง ทั้งที่ดิฉันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เคยพบหน้าเนื่องจากเป็นลูกค้า พนักงานได้บอกกับดิฉันว่า เขากล่าวหาว่าดิฉันไปหัวเราะเขา ซึ่งดิฉันกำลังทำงานสอนเด็กอยู่และมีการหยอกล้อกับเด็กนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งชายคนนี้นั่งใกล้กับผู้ปกครองและลูกศิษย์ของดิฉัน ซึ่งก่อนช่วงนั้นเองดิฉันได้เห็นชายคนนี้กำลังสนทนาท่าทางเคร่งเครียดกับหัวหน้างานของดิฉัน และดิฉันได้ทราบภายหลังว่าชายคนนี้เกิดอุบัติเหตุมือเป็นแผลเนื่องจากกระโดดข้ามประตูกั้น ซึ่งที่ทำงานกำลังซ่อมประตู แต่ไปเปิดประตูอีกทางไว้ให้เดินเข้าออกแล้ว แต่ชายคนนี้กับกระโดดข้ามจนเกิดบาดแผลเอง ดิฉันไม่แน่ใจว่าชายคนนี้เกิดอาการฉุนเฉียวจากเรื่องนี้รึเปล่า ณ ขนาดนั้นดิฉันไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าสอบถามภายหลังจากเพื่อนร่วมงานก็ได้ แต่ชายคนนั้นก็ไม่เข้ามาพูดจาอะไร และยังได้สอบถามชื่อนามสกุลของดิฉันโดยที่ดิฉันไม่ทราบ และบอกพนักงานท่านอื่นว่าจะฟ้องร้องดิฉัน วันต่อมาชายคนดังกล่าวได้พาลูกสาวมาเรียน แต่ดิฉันยังไม่พบเจ้าตัว พบแต่ลูกสาวเขา ทางบริษัทดิฉันต้องการจะพูดคุยกับลูกค้าชายรายนี้ ชายคนนี้ยังยืนยันว่าจะฟ้อง แต่ไม่เคยมาพูดคุยกับดิฉัน ดิฉันต้องการจะป้องกันตัวจากพฤติกรรมประหลาดชายคนนี้คะ ดิฉันมีความรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่คะ และแอบอ้างว่าเขาเป็นบุคคลมีสี รู้จักคนใหญ่คนโตมากมาน ต้องปรึกษาทนายใหม ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่

ตอบคำถามคุณวิชยา
            เรื่องที่สอบถามไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิดครับว่า หากไปหัวเราะใส่ผู้ใดแล้วจะมีความผิดและต้องรับโทษจำคุก ดังนั้น คนที่บอกว่าจะฟ้องเพราะสาเหตุดังกล่าวจึงเป็นเพียงการขู่ที่ไม่สามารถทำได้จริงครับ เพราะกฎหมายไม่ได้บัญญัติเป็นความผิด ฉะนั้น จึงไม่ควรไปสนใจหรือคิดมากให้เครียดเปล่า ๆ 
           การที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทจะต้องเป็นการใส่ความ ด้วยถ้อยคำ ไม่ว่าคำพูด หรือตัวหนังสือ เช่น ไปกล่าวหากับบุคคลที่สาม (นินทาคนอื่น) ว่า คนนั้นคนนี้ลักทรัพย์ หรือไปทำผิดกฎหมาย ทุจริตคดโกง เป็นต้น จึงจะเป็นความผิด การหัวเราะอย่างเดียวไม่มีความผิดอะไร