ืร้อนใจ
โดนแจ้งจับคดียักยอกทรัพย์ (1919 อ่าน)
29 มิ.ย. 2556 19:03
รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ ขอเล่าความเป็นมาคร่าวๆก่อนนะคะ
มีคุณยายท่านหนึ่งซึ่งไม่ได้เป็นญาติกัน ซึ่งคุณยายไม่มีสามี มีแต่น้องสาว จึงให้น้าเป็นคนจัดการเรื่องการเงินทุกอย่าง โดยเปิดบัญชีธนาคารเป็นชื่อร่วมกันกับน้า และมอบบัตรเอทีเอ็มไว้ให้น้าเป็นคนไปกดเงินให้เพื่อมาใช้จ่ายเป็นค่ากับข้าว รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆของคุณยาย และเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว ได้ยกที่ดินให้และโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้หลานสะไภ้ของคุณยาย(ลูกสะไภ้ของน้องสาวคุณยาย)ไม่พอใจตั้งแต่ตอนนั้น และเมื่อวานนี้หลานสะไภ้ ได้พาคุณยายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจว่าน้ายักยอกทรัพย์ไป (ซึ่งคุณยายตอนนี้อายุเยอะแล้ว และหลงๆลืมๆ) และตำรวจได้มาเชิญตัวให้ไปโรงพัก แต่น้าไม่ได้ไป ตำรวจจึงบอกว่าไม่ไปไม่เป็นไร รอหมายศาลมา และวันนี้ตำรวจได้มาแจ้งข้อหาเพิ่มอีกว่าลักทรัพย์ เนื่องจากเงินสดที่บ้านคุณยายได้หายไป เลยอยากเรียนปรึกษาคุณทนายว่าควรจะทำอย่างไรดี ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ และการโอนที่ดินหรือแม้แต่เรื่องการเงินต่างๆ คุณยายก็ยกให้ด้วยความเต็มใจ ไม่ได้มีการบังคับแต่อย่างใด รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ืร้อนใจ
ผู้เยี่ยมชม
ทนายภูวรินทร์
3 ก.ค. 2556 16:02 #1
กรณีแบบนี้ เมื่อมีการแจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมายก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตนเอง และควรติดต่อขอพบพนักงานตำรวจจะดีกว่า ถูกออกหมายจับ ซึ่งจะทำให้ยุ่งยากถูกจับกุมไม่เป็นผลดีเลย
แต่ก่อนจะเข้าไปพบตำรวจ ให้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปก่อนว่า จะต้องถูกควบคุมตัวหรือขังหรือไม่ ต้องใช้หลักประกันเท่าใด จะได้เตรียมไปถูกต้อง ส่วนการให้การก็ควรให้การไปตามความจริงที่เกิดขึ้น และมีสิทธิให้บุคคลที่ตนไว้วางใจเข้าร่วมการสอบปากคำ และมีสิทธิขอให้ตำรวจจัดหาทนายความให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย (ในชั้นศาลก็มีสิทธิเช่นเดียวกัน)
ส่วนแนวทางการต่อสู้คดีควรจะปรึกษาทนายความที่จะให้ดำเนินคดีเป็นการเฉพาะตัวจะดีที่สุดครับ คงแนะนำสิทธิของผู้ต้องหาเบื้องต้นได้เพียงเท่านี้
ทนายภูวรินทร์
ผู้ดูแล