เรื่องมีอยู่ว่า ที่ทำงานของพี่สาวทำการแจ้งความและลงบันทึกประจำวันว่า พี่สาวของผมได้ทำการยักยอกเงินของบริษัทไปเป็นจำนวน 555000 บาท และพยายามบังคับให้พี่สาวผมเซ็นยอมรับ ซึ่งพี่สาวผมก็ยอมเซ็นด้วยความกลัว แต่พี่สาวผมไม่ได้เอาเงินจำนวนนั้นไป เนื่องจากว่าพี่สาวต้องนำเงินจำนวนนี้ออกจากบัญชีธนาคารหนึ่ง ไปไว้อีกธนาคารหนึ่ง ซึ่งปกติพี่สาวจะเอาเงินไปเข้าธนาคารทันที แต่คราวนี้งานในช่วงนั้นเยอะ ก็เลยยังไม่ได้เอาเงินจำนวนนี้ไปเข้า พอมาดูอีกทีเงินจำนวนนี้ไม่อยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าคนที่ทำงานเอาไปเข้าให้แล้ว (ซึ่งปกติก็ทำกันหลายครั้ง) จึงไม่ได้เอะใจอะไร แต่มารู้ภายหลังจากที่โดนแจ้งความว่า ไม่มีเงินจำนวนนี้เข้าบัญชีอีกธนาคาร

ในกรณีนี้ควรทำอย่างไรครับ

1. ทางครอบครัวยินดีชำระหนี้ให้ แต่ไม่สะดวกจะชำระทั้งหมดในคราวเดียว เพราะลองพยายามพูดคุยแล้ว แต่เค้าต้องการเต็มจำนวน เพราะทางครอบครัวไม่สามารถหามาได้ทั้งหมด เพราะไม่ได้นำเงินเค้ามาจริงๆ

2. พอมีวิธีที่จะลดหนักให้เป็นเบาไหมครับ

3. คดีนี้ ถ้าขึ้นศาลแล้ว อาจถึงการจำคุกไหมครับ

รบกวนด้วยนะครับ

              หากไม่ได้เอาเงินไป ก็ไม่ควรจะลงชื่อยอมรับว่าได้กระทำผิดตั้งแต่แรก เพราะเอกสารดังกล่าวเป็นการผูกมัดตนเอง และทำให้เสียเปรียบในการต่อสู้คดีในชั้นศาล สำหรับคำถามขอตอบดังนี้
            ประการแรก หากมีการดำเนินคดีก็สามารถขอให้ศาลช่วยไกล่เกลี่ยได้ ส่วนผลการไกล่เกลี่ยจะเป็นประการใดก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกัน
            ประการที่สอง วิธีที่จะลดหนักให้เป็นเบา ก็ต้องพยายามหาเงินมาชำระให้ได้มากที่สุดเท่านั้น
            ประการสุดท้าย เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานโจทก์ว่าสามารถนำสืบให้ศาลรับฟังได้หรือไม่ว่า จำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนั้น หากสืบรับฟังได้ และไม่มีการชำระเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายเลย ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำคุก ส่วนจะเป็นกี่ปีกี่เดือนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
            เรื่องนี้หากมีการฟ้องศาลแล้ว ห้ามรับสารภาพทันทีเพราะหากรับสารภาพศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำคุกโดยไม่ต้องสืบพยาน แต่จำเลยสามารถขอให้ศาลแต่งตั้งทนายให้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อจะได้ปรึกษาหารือหาทางแก้ไขคดี