สวัสดีค่ะคุณทนาย หนูรบกวนหน่อยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวซื้อรถยนต์ป้ายแดงแบบผ่อนกับบริษัท 6 ปี ผ่อนได้ 5เดือน ขายต่อให้หนูโดยไม่ได้แจ้งกับบริษัท หนูผ่อน มาตลอดจนถึง วันที่ 3 ต.ค. 54 ปิดยอด บริษัทกำลังดำเนิการโอนกรรมสิทธ์เป็นชื่อพี่สาว
แต่ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 54 พี่สาวได้รับจดหมายฟ้องร้องจากศาล เรื่องซื้อรถจักรยานยนต์แล้วไม่ผ่อน ให้ไปชำระเงิน รวมทุกอย่าง ประมาณ 30,000 บาท หรือเอารถไปคืน
หนูขอถามคุณทนายว่า ถ้าระหว่างนี้โอนรถยนต์จากชื่อพี่สาวเป็นชื่อหนู จะมีผลอย่างไรบ้างจากคดีความของพี่สาว ถ้าพี่สาวไม่ยอมไปติดต่อเรื่องคดีความ รถยนต์ที่โอนเป็นชื่อหนูแล้วจะโดนยึดมั้ยคะ

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบคำถามล่าช้าเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม
                   เรื่องที่ได้สอบถามมานั้น มีบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 "ผู้ใดเพื่อมิให้เจ้าหนี้ของตนหรือของผู้อื่นได้รับชำระ หนี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ซึ่งได้ใช้หรือจะใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลให้ชำระหนี้ ย้ายไปเสีย ซ่อนเร้นหรือโอนไปให้ผู้อื่นซึ่งทรัพย์ใดก็ดี แกล้งให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนใดอันไม่เป็นความจริงก็ดี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" 
                   การที่จะมีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ผู้กระทำจะต้องมีเจตนาภายในคือเพื่อไม่ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ด้วยครับ ดังนั้น หากกรณีของคุณกับพี่สาวไม่ได้ทำเพื่อโกงเจ้าหนี้ก็ไม่มีความผิดแต่อย่างใด  และสามารถโอนรถเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณได้ แม้พี่สาวคุณจะไม่ไปศาลคดีที่ถูกฟ้องก็ตาม  ซึ่งหากต่อไปในอนาคตมีปัญหาก็เป็นเรื่องที่ต้องไปสืบพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป หรือหากไม่อยากมีปัญหาพี่สาวคุณก็ต้องไปศาลเพื่อตกลงชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ หรือคืนรถให้แก่เจ้าหนี้เสีย ปัญหาก็จะน้อยลง