ผิดแล้วบอมรับผิด

ผิดแล้วบอมรับผิด

ผู้เยี่ยมชม

16 ก.ค. 2556 19:53 #235

รบกวนขอคำปรึกษาหน่อยนะคับพอดีต้องรีบเพราะจะนัดตกลงวันเสาร์ ที่ 20 กรกฏาคม 2556 ผมทำงานอยู่ที่หนึ่งแล้วได้ขายของให้บริษัทแต่จ่ายเงินให้เค้าไม่ครบ บริษัทหาตัวเลขเงินที่หายได้ 70000 บาท(มีบิล) และได้พูดว่าค่าเสียหายที่บริษัทที่คิดไว้อยู่ที่ 130000 บาทเท่ากับ 60000บาท โดยไม่มีหลักฐานที่มา(บิลหาย) และได้บอกว่าต้องการเงิน 100000 บาท ภายใน 1เดือน ทั่งที่ก่อนหน้านี้ผมได้ตกลงยอมรับผิดไปหมดแล้ว แล้วขอชดใช้เงิน 100000 บาท เป็นระยะเวลา ไม่เกิน 2 ปี แต่บริษัทจะเอาที่เดียว 100000 บาท ถ้าผมไม่ใช้ ผมจะให้ดำเนินคดี เค้าบอกว่า ผมจะต้องติดคุก และ ผู้ค้ำประกัน(ในใบสมัครงาน) ต้องรับผิดชอบ ผมควรจะทำไงดีคับ จากคนที่ผิดแล้วยอมรับผิด

ผิดแล้วบอมรับผิด

ผิดแล้วบอมรับผิด

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

16 ก.ค. 2556 21:36 #236


ตอบคำถามคุณเริศทางอีเมลล์เรียบร้อยแล้ว
 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

16 ก.ค. 2556 21:47 #237


ตอบคำถามคุณ tukta
           การที่นายจ้างให้เขียนรับผิดว่าได้เอาเงินไปเป็นการทำหลักฐานเพื่อยืนยันว่าแฟนคุณกระทำผิดจริง เป็นการมัดไม่ให้ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดภายหลัง การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดไม่ว่าชั้นตำรวจหรือชั้นศาล ผลก็คือศาลจะลดโทษให้กึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงเหมือนกันและลดให้ครั้งเดียวเท่านั้น ส่วนจะติดคุกหรือไม่ หรือรอลงอาญาหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล โดยจะพิจารณาพฤติการณ์คดี และพยานหลักฐานในคดี บวกกับข้อหาหลายกรรมต่างกันหรือไม่ประกอบกัน และโทษจำคุกสุทธิจะต้องไม่เกินสามปีด้วย ดังนั้น จึงไม่มีใครตอบได้ว่าจะติดหรือไม่ติด ลำพังแค่คำรับสารภาพโดยไม่มีการชำระเงินเลย หรือชำระเพียงเล็กน้อย ก็ไม่ทำให้ศาลรอลงอาญานะครับ อย่าเข้าใจผิด แต่หากต้องการให้ศาลรอลงอาญาก็ต้องรับสารภาพแล้วชำระเงินให้หมด หรือพยายามผ่อนชำระเงินให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้องไม่น้อยกว่า 80-90 % โอกาสที่จะรอลงอาญาย่อมมีสูงตามไปด้วย
 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

16 ก.ค. 2556 21:53 #238


ตอบคำถามคุณ bobby
       เมื่อผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ถามว่าจะต้องทำอย่างไร คำตอบก็คือคุณต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความผิดว่าได้กระทำความผิดหรือไม่ การที่จะต่อสู้คดีจะต้องทราบว่าคำกล่าวหามีรายละเอียดอะไรบ้าง ทนายความที่จะให้คำปรึกษาก็ต้องทราบรายละเอียดทั้งหมดด้วย จะไม่ให้คำปรึกษาโดยจินตนาการเอาเอง เพราะโอกาสที่ข้อเท็จจริงจะคลาดเคลื่อนมีมาก และจะไม่ใช้หลักสมมุติเหตุการณ์ขึ้นมาเองด้วย

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

16 ก.ค. 2556 21:58 #239


ตอบคำถามคุณผิดแล้วยอมรับผิด ให้อ่านคำตอบและปฏิบัติตามที่ผมได้ตอบในคำถามของคุณ tukta # 237 ข้างบนนี้

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

downin

downin

ผู้เยี่ยมชม

17 ก.ค. 2556 11:43 #240

สวัสดีค่ะคุณทนาย หนูมีเรื่องรบกวนและขอคำปรึกษาค่ะ พอดีว่าเจ้านายบอกเลิกจ้างเพราะหาว่าหนูไปด่าเค้า แต่หนูก็ด่าจริง ๆ ค่ะ เค้าจ่ายแค่เงินเดือน ๆ สุดท้ายให้ พอครบเจ็ดวัดเลยไปที่ประกันสังคมว่าถูกเลิกจ้างและไปจัดหางาน และสวัสดิการคุ้มครองแรงงานเพราะเค้าบอกเจ้านายให้ออกเพราะเลิกจ้างต้องจ่ายชดเชยเลยไปยื่นเรื่องเขียนคำร้องพอเรื่องถึงเจ้านายเค้าบอกจะไม่จ่ายแล้วโทรมาด่าหนูว่าหนูไปทุจริตเค้า เค้ารู้เรื่องที่เราเอาเงินไปให้พี่ยืมแล้ว แต่ก่อนที่หนูจะโดนไล่ออก หนูแจ้งกับผู้จัดการว่าหนูเอาเงินในเก๊ะไปหนึ่งหมื่นห้าพันบาทคุยกันในวันศุกร์ บอกเค้าว่าวันจันทร์ถ้าหนูกลับบ้าน หนูจะเอามาคืน คือผู้จัดการก็รับทราบ พอหนูบอกเสร็จเค้าถามว่าเมื่อวานได้คุยกันแรงมั๊ยเรื่องว่าให้เจ้านาย หนูบอกก็แรงนะ เค้าบอกเจ้านายได้ยินเราด่าหมดเพราะเค้าไม่ได้วางหูโทรศัพท์ เค้าจะให้เราออกเลยนะ หนูก็อึดอัดใจมานาน หนูบอกออกก็ดีเหมือนกัน เพราะหนูอยู่แล้วไม่สบายใจเพราะเรื่องเมียหลวงเมียน้อยที่ให้เรารับหน้าแแทน แล้วบางทีพ่อกับแม่เค้าก็มาด่าเราโดยที่เราไม่ได้ผิด แล้วก็เคลียร์เงินกันเรียบร้อยหมายถึงเงินที่หนูเอามาจากเก๊ะ ก็คืนไปหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้านายขู่ว่า ถ้าเราไม่ไปถอนจากเลิกจ้าง เป็นลาออกเค้าจะฟ้องเราว่าเราทุจริต เค้าบอกมีคลิปที่เราคุยกับผู้จัดการว่าเราเป็นคนเอาเงินเค้าไป เค้าจะฟ้องให้หมด แต่หนูบอกก็มีครั้งนี้แหละที่หนูละลาบละล้วงเอาเงินในเก๊ะไปจริง ๆ แต่ก็เคลียร์หมดเรียบร้อยแล้วตอนออก หนูอยากถามว่า ตอนนี้เค้ามาบีบให้หนูไปถอนเลิกจ้างให้เปลี่ยนเป็นลาออก เพราะเค้าไม่อยากจ่ายค่าชดเชยให้หนูที่จะต้องได้ สามเดือนค่ะ แล้วขู่ต่าง ๆ นา ๆ แล้วเราคืนเค้าไปหมดแล้ว แต่เค้าบอกมีคลิปอัดเสียงว่าเราเป็นคนเอาไป แบบนี้จะแจ้งความจับเราดำเนินคดีได้รึเปล่าคะ เพราะเราเคลียร์ไปแล้วจะเอาผิดเราย้อนหลังได้มั๊ยคะ รบกวนช่วยตอบหนูด้วยนะคะ เห็นใจคนไม่มีทางสู้ คนบ้านนอกด้วยเถอะค่ะ ลืมบอกเค้าเป็นผู้ชายที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเท่าไหร่ค่ะ เคยจ้างคนไปทำร้ายร่างกายเวลาไม่พอใจคนอื่น หนูกลัวว่าหนูจะไม่ปลอดภัยค่ะ แบบนี้ถ้าเค้าไปแจ้งความว่าหนูยักยอกทรัพย์ แล้วหนูจะมีโทษแบบไหนคะ เพราะเรื่องตัวเิงินหนูคืนไปหมดแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ รบกวนช่วยตอบหนูด้วยค่ะ

downin

downin

ผู้เยี่ยมชม

นายใหญ่

นายใหญ่

ผู้เยี่ยมชม

17 ก.ค. 2556 21:12 #241

เรียนถามอาจารย์ว่า
1. เมื่อคราวมีการเลือกตั้งผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ครูของหน่วยเลือกตั้งระดับตำบล ผลการเลือกตั้งมีผู้สอบตก 2 ราย ทั้งคู่เข้าชื่อร้องเรียนผู้สอบได้ในข้อหาปฏิบัติตนทั้งกรรมการประจำหน่วยและเป็นผู้สมัครฯ ในเวลาเดียวกัน
(ในประกาศฯ ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติขัดแย้งไว้ สาเหตุผู้สอบได้เป็นอริทางแนวคิดกับประธานคนนี้) โดยอ้างถึง
ประธานกรรมการสหกรณ์ฯแห่งนี้ มีประสงค์ให้ร้องเรียน ทั้งๆ ตนไม่อยากจะกระทำ เพราะผู้ที่สอบได้เป็น
ผู้บังคับบัญชาตน แต่จำใจร้องตามประสงค์นั้น โดยลงลายมือรับรองในบันทึกว่าถูกชักนำแกมบังคับให้กระทำ
และใช้เงินอุดหนุนซื้อเสียงจากเขาด้วย แต่สอบตกแบบเฉียดฉิว
การกระทำของประธานกรรมการสหกรณ์ฯ คนนี้ ผู้สอบได้จะแจ้งข้อหากลับ “ใช้อำนาจโดยมิชอบ” ได้หรือไม่ ประการใด ครับ
2. ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ แห่งนี้ ได้ออกประกาศฯ ให้มีคณะกรรมการเลือกตั้งกลางในสหกรณ์ฯ จำนวน 5 ราย
(จากสมาชิกสหกรณ์ผู้สมัครมา) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการลือกตั้งกรรรมการสหกรณ์ฯ แทนตำแหน่งที่โดยจับฉลาก
ออกในวาระปีบัญชีนั้นๆ
การออกประกาศดังกล่าวของประธานกรรมการสหกรณ์ฯ ชอบที่จะปฏิบัติ ได้หรือไม่ อย่างไร เพราว่ามี
กฎหมายว่าด้วย กกต.กลางทางการเมืองอยู่แล้ว ครับ
ขอบพระคุณล่วงหน้ามาด้วยนี้แล้ว ครับ

นายใหญ่

นายใหญ่

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

18 ก.ค. 2556 00:03 #242


ตอบคำถามคุณ downin
                   คดียักยอกหมายความว่า ผู้กระทำผิดจะต้องทำด้วยเจตนา โดยได้รับมอบการครอบครองทรัพย์สินนั้นจากเจ้าของไม่ว่าโดยตรงหรือโดยปริยาย แล้วต่อมาเกิดเจตนาทุจริต ทำการเบียดบังเอาทรัพย์สินนั้นไปเป็นของตนหรือบุคคลอื่น กฎหมายถือว่ากระทำความผิดฐานยักยอกมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกพันบาท คำว่า โดยทุจริต คือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งหมดเป็นองค์ประกอบความผิดข้อหายักยอก และสิ่งสำคัญคือต้องทำด้วยเจตนา
                   ดังนั้น กรณีของคุณต้องทราบดีอยู่ในใจแล้วว่าตนเองไม่ได้กระทำผิด จึงไม่ควรไปกังวลการถูกแจ้งความดำเนินคดี ส่วนการคืนเงินนั้น หากมีหลักฐานเป็นเอกสาร หรือใบโอนเงินยืนยันว่าได้คืนเงินไปแล้วก็สามารถอ้างเป็นหลักฐานได้ แต่คุณอ้างว่าได้คืนไปแล้วๆๆ หากไม่มีพยานหลักฐานมีเพียงการส่งมอบเงินสดให้แก่นายจ้างเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นข้อที่เสียเปรียบและถือว่าคุณไม่รอบคอบในการทำเอกสารหลักฐานซึ่งต่อไปในอนาคตทำอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับเงินไม่ควรทำแบบไม่มีหลักฐานการรับเงินหรือส่งมอบเงิน เพราะเมื่อมีปัญหามาแล้วมันไม่มีอะไรมาอ้าง สำหรับคลิปเสียงนั้น ก็ต้องยอมรับว่าพูดว่าได้เอาเงินไป แต่ไม่ใช่การกระทำผิดกฎหมาย การที่นายจ้างจะแจ้งความก็เป็นเรื่องกลั่นแกล้งที่คุณไปร้องเรียนแรงงาน 
                  เรื่องนี้หากมั่นใจว่าตนเองไม่ได้กระทำผิดก็ไม่ต้องกลัว เดินหน้าต่อไป แต่หากกลัวนั่นกลัวนี่ ก็ไม่ต้องทำอะไร ยอมแพ้ไปเลยดีกว่าไหม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

18 ก.ค. 2556 00:34 #243


ตอบคำถามนายใหญ่
              ตามคำถามข้อ 1. อ่านแล้วก็งง เพราะมาสรุปตอนท้ายเลยว่าการกระทำของประธานฯ เป็นการใช้อำนาจชอบหรือไม่ชอบ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของประธาน หรือผู้ที่จะกล่าวหานั้นจะต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจนเป็นที่ยุติแล้ว และตามคำถามผมอ่านแล้วยังไม่เคลียร์ แต่ก่อนที่จะพิจารณาว่าการกระทำของประธานชอบด้วยระเบียบข้อบังคับหรือไม่ คุณต้องไปศึกษาระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งสหกรณ์ครูฯ ว่าสามารถทำได้แค่ไหนเพียงไร แล้วนำระเบียบนั้นมาวินิจฉัยว่าการกระทำของประธานชอบหรือไม่ชอบ
             คำถามข้อที่ 2 ก็เช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่คุณคิดว่าการเลือกตั้งผู้แทนสหกรณ์ครูจะต้องใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของ กกต.นั้น คงจะเป็นการเข้าใจผิด เพราะการเลือกตั้งผู้แทนสหกรณ์ครู (น่าจะเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ครู) จะมีระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการเลือกตั้งของแต่ละสหกรณ์ไว้โดยเฉพาะเจาะจง เช่น ระเบียบสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้อยเอ็ดจำกัดว่าด้วยการเลือกตั้งผู้แทนสมาชิก พ.ศ. 2551 เป็นต้น ไม่ใช่ไปนำกฎหมายการเลือกตั้งผู้แทนราษฎร หรือการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ กกต. ดำเนินการมาใช้บังคับ ดังนั้น จะพิจารณาว่าการกระทำของประธานชอบหรือไม่ ต้องนำระเบียบดังกล่าวมาเป็นหลักเกณฑ์
 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ยศววิศ

ยศววิศ

ผู้เยี่ยมชม

20 ก.ค. 2556 10:11 #244

แฟนผมโดนคดียังยอกทรัพย์ 15000 บาท ขึ้นศาลต้องเสียค่าปรับเท่าไหร ประกันตัวเท่าไหร ครับ

ยศววิศ

ยศววิศ

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

22 ก.ค. 2556 13:14 #245


ตอบคำถามคุณยศววิศ    
                ความผิดฐานยักยอก มีอัตราโทษตามลักษณะการกระทำผิดและพฤติการณ์แห่งคดี ไม่ได้ดูจากอัตราเงินที่ยักยอกไป ส่วนศาลจะลงโทษจำคุกหรือปรับเท่าใด เป็นดุลพินิจของศาล สำหรับการประกันตัวขั้นต่ำ 3 หมื่นบาท หรือศาลอาจให้ประกันโดยไม่ต้องใช้หลักประกัน ทั้งนี้เป็นดุลพินิจของศาล ตอบแทนไม่ได้
ประมวลกฎหมายอาญา หมวด 5 ความผิดฐานยักยอก
                มาตรา 352 ผู้ใดครอบครองทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่น หรือซึ่งผู้อื่น เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เบียดบังเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือบุคคล ที่สามโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานยักยอก ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดไปด้วยประการใด หรือเป็นทรัพย์ สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เพียง กึ่งหนึ่ง
                มาตรา 353 ผู้ใดได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่นหรือ ทรัพย์สินซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย กระทำผิดหน้าที่ของตนด้วย ประการใด ๆ โดยทุจริต จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                มาตรา 354 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 352 หรือ มาตรา 353 ได้กระทำในฐานที่ผู้กระทำความผิดเป็นผู้จัดการทรัพย์สินของ ผู้อื่น ตามคำสั่งของศาล หรือตามพินัยกรรม หรือในฐานเป็นผู้มีอาชีพ หรือธุรกิจ อันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน ผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                มาตรา 355 ผู้ใดเก็บได้ซึ่งสังหาริมทรัพย์อันมีค่า อันซ่อนหรือฝัง ไว้โดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดอ้างว่าเป็นเจ้าของได้ แล้วเบียดบังเอา ทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ผู้สมัคร

ผู้สมัคร

ผู้เยี่ยมชม

22 ก.ค. 2556 20:23 #246

เรียนอาจารย์ว่า
ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ ได้ออกประกาศสหกรณ์ฯ ให้มีคณะกรรมการเลือกตั้งกลางในสหกรณ์ฯ จำนวน 5 ราย (จากสมาชิกสหกรณ์ผู้สมัครมา) เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการลือกตั้งกรรรมการสหกรณ์ฯ แทนตำแหน่งที่ว่างโดยจับฉลากออกในวาระปีบัญชีนั้นๆ
-การออกประกาศดังกล่าวของประธานกรรมการสหกรณ์ฯ ชอบที่จะปฏิบัติ ได้หรือไม่ อย่างไร ครับ

ผู้สมัคร

ผู้สมัคร

ผู้เยี่ยมชม

ปลิว

ปลิว

ผู้เยี่ยมชม

23 ก.ค. 2556 14:13 #247

สอบถามทนายภูวรินทร์ค่ะ ดิฉันซื้อตั๋วเครื่องบิน กับคนกลางซึ่งได้อ้างว่าอยู่บริษัททัวร์ แห่งหนึ่ง ในราคา 100,000 บาท ซึ่งได้ใบจองตั๋วเครื่องบินออกมาเรียบร้อยแล้วทางอีเมล์ ซึ่งเป็นหัวกระดาษของบริษัทที่เค้าได้อ้างตัวว่าทำงานอยู่ และทางดิฉันก็ไม่เคยติดต่อไปที่บริษัทเลย ซึ่งเวลาต่อมาดิฉันต้องการให้คนกลางออกตั๋วให้เลยเนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางแล้ว 5 วันต่อมาทางคนกลางได้แจ้งว่าไม่สามารถออกตั๋วให้ได้ เนื่องจากบริษัทัวร์ที่คนกลางเป็นนายหน้าขายให้ ไม่มีเงินที่จะออกตั๋วให้ลูกค้า และซึ่งตอนนี้ทางคนกลาง ก็แจ้งให้ลูกค้าทุกท่านที่ไม่ได้ตั๋ว ไปเอาผิดกับทางบริษัทเอง เนื่องจากตนเป็นแค่นายหน้าขายตั๋วให้รับค่าคอมมิสชั่นเท่านั้น ดังนั้นอยากทราบว่าเราสามารถเอาผิด หรือเรียกร้องเงินจากคนกลางได้หรือไม่ (ตลอดเวลาที่ผ่านมาติดต่อกับคนกลางตลอด) เพราะคนกลางได้แจ้งว่า ได้เซ็นต์สัญญากันกับทางบริษัททัวร์ ไปแล้วหลังจากเกิดเรื่องว่า ทางบริษัททัวร์จะเป็นผู้รับผิดชอบแทนคนกลางทั้งหมด
และควรต้องจ้างทนาย หรือแจ้งความเพื่อดำเนินคดีอย่างไรดีคะ ขอบคุณค่ะ

ปลิว

ปลิว

ผู้เยี่ยมชม

ภูวา

ภูวา

ผู้เยี่ยมชม

24 ก.ค. 2556 01:50 #248

กรณีผมทำงานแจกสินค้าแจกฟรี(สินค้าไม่มีตราติดว่าห้ามจำหน่าย)แล้วนำสินค้าจำนวนนึงกลับบ้าน ทำงานมา10วันแต่นำกลับบ้านมา2ครั้งคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ2500บาท และทางบ้านได้นำสินค้าแจกนี้ไปวางจำหน่าย เป็นเวลา2วัน ทางบริษัทบังเอิญไปพบเข้าเลยถ่ายรูปและซื้อสินค้าไว้ไปเป็นหลักฐานในวันแรก ส่วนวันที่สองก็มีพนักงานออแกไนท์ที่ผมทำงานถ่ายรูป ถามที่มาที่ไปของสินค้าแล้วยึดสินค้าไปทั้งหมด ผมไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง2วัน พอเกิดเหตุดังกล่าว ต่อมาเพื่อนที่เป็นพนักงานที่บริษัทเดียวกันได้โทรศัพท์มาบอกว่า ที่บริษัทให้ฝ่ายบุคคลแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุดกับผม บริษัทจะกันเพื่อนผมให้เป็นพยานว่าผมขโมยสิยค้า ในกรณีที่ผมเป็นพนักงานแจกสินค้าแล้วนำสินค้ากลับบ้านโดยที่มีคนรู้เห็นไม่ได้ขโมย ที่บ้านก็เอาไปวางขาย อยากทราบว่าผมจะโดนข้อหายักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ครับ แล้วถ้าโดนยักยอกทรัพย์ในจำนวนที่แจ้งไปสินค้าที่โดนยึดไปเป็นหลักฐานมีมูลค่าประมาณ2500บาท จะโดนโทษอย่างไรบ้าง แล้วเป็นไปได้มั๊ยครับว่าบริษัทจะยัดข้อหาลักทรัพย์ให้กับผม ผมต้องสู้คดีในลักษณะไหนได้บ้างครับ ขอความกรุณาให้คำปรึกษาด้วยครับ ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ภูวา

ภูวา

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

25 ก.ค. 2556 01:35 #249


ตอบคำถามผู้สมัคร
          ผมยังยืนยันตามคำตอบเดิมที่ได้ตอบไปแล้วนะครับว่า การที่จะตอบว่าชอบ หรือไม่ชอบนั้น จะต้องพิจารณาตามระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นสำคัญ เมื่อผมยังไม่เคยเห็นระเบียบดังกล่าวก็คงตอบไม่ได้ เพราะหากผมตอบว่าชอบทั้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจะบอกว่าชอบที่จะปฏิบัติได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์อะไร อันนี้ต้องเข้าใจนะครับ ไม่ใช่ไม่อยากตอบคำถาม เรื่องนี้คุณควรจะไปหาระเบียบข้อบังคับของสหกรณ์มาเป็นหลักเกณฑ์พิจารณาเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่มีปัญหาจะเป็นการดีกว่า

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

25 ก.ค. 2556 01:42 #250


ตอบคำถามคุณปลิว

         คุณไม่เคยเห็นหลักฐานการเป็นตัวแทนระหว่างคนกลางกับบริษัท เพราะติดต่อกับคนกลางโดยเข้าใจว่าเขาเป็นผู้ดำเนินการเอง เงินก็โอนให้คนกลางเท่านั้น แต่คนกลางอ้างภายหลังว่าเป็นเพียงตัวแทนหลังจากโอนเงินไปแล้ว เรื่องนี้จึงพิเคราะห์ตอบคำถามเป็นสองประเด็นคือ
         1.หากคนกลางเป็นตัวแทนหรือเป็นลูกจ้างบริษัท คุณต้องไปเรียกร้องให้บริษัทรับผิดชอบ ซึ่งคุณต้องติดต่อสอบถามไปที่บริษัทหรือตรวจสอบว่าที่จริงแล้วคนกลางเป็นตัวการเองหรือเป็นตัวแทน
         2.หากคนกลางไม่ได้เป็นตัวแทน รับเงินไปแล้วไม่ดำเนินการให้ โดยหลอกลวงคุณเพื่อให้ได้เงินค่าตั๋ว คุณก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงที่สถานีตำรวจได้ครับ

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

25 ก.ค. 2556 01:53 #251


ตอบคำถามคุณภูวา
        แม้สินค้าจะเป็นสินค้าแจกฟรี แต่กรรมสิทธิ์สินค้าก็ยังเป็นของบริษัทอยู่ จะอ้างว่าเป็นสินค้าแจกฟรีไม่ได้ ดังนั้น การที่บริษัทมอบสินค้าให้คุณไปแจกจึงเป็นการมอบการครอบครองสินค้าให้คุณไปจัดการแจก แต่คุณไม่ได้แจก หรือแจกบางส่วน และเบียดบังนำเอาส่วนที่เหลือไปเป็นของตนเองหรือบุคคลอื่นโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายก็ถือเป็นความผิดฐานยักยอก ไม่ว่าสินค้าจะมีราคาเท่าไรก็ตาม หรือไม่มีราคาก็ตาม กฎหมายถือว่ามีความผิด โดยพิจารณาจากการกระทำ ไม่ใช่ราคาหรือจำนวนเงินที่เอาไป และมีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกพันบาท
        เรื่องนี้หากมีการแจ้งความ ซึ่งตำรวจคงดำเนินคดีข้อหายักยอก เพราะไม่เข้าองค์ประกอบฐานลักทรัพย์ คุณไม่ต้องไปต่อสู้คดีให้เสียเวลา ควรจะขอโทษในสิ่งที่ทำไปและชดใช้ค่าเสียหายตามความจริง เพื่อให้บริษัทถอนคำร้องทุกข์ แต่หากบริษัทไม่ถอนแจ้งความและมีการฟ้องคดี ก็ให้การรับสารภาพในชั้นศาล ๆ จะเมตตาลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษ
 

ทนายภูวรินทร์

ทนายภูวรินทร์

ผู้ดูแล

ภูวา

ภูวา

ผู้เยี่ยมชม

25 ก.ค. 2556 04:20 #252

รบกวนอีกนิดครับ คือเค้าสามารถแจ้งจำนวนให้มากกว่าที่ผมเอามาได้มั้ยครับ และจะเรียกค่าเสียหายมากว่าจำนวนที่ผมเอามาได้มั้ย
เพราะของแจกแต่ละวันแจกไปเยอะมาก และของที่ผมเอากลับบ้านมาเค้ายืดคืนไปหมดแล้วด้วยครับ
ส่วนเรื่องค่าแรงที่ผมทำงานให้เค้าไปแล้ว เค้าจะไม่จ่ายให้ ผมได้มั้ยครับ ตอบให้ผมสบายใจทีครับนอนไม่หลับเครียดครับ ขอบคุณ

ภูวา

ภูวา

ผู้เยี่ยมชม

ไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ผู้เยี่ยมชม

27 ก.ค. 2556 17:33 #253

สวัสดีค่ะขอปรึกษาก้านคดีคะ แฟนดิฉันตกเป็นจำเลยคดียักยอกทรัพย์ เหตุการเริ่มจากทางร้านขายสินค้าให้กับผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่งซึงมีอำนาจในบริษัทสั่งโอนเงินซื้อสินค้าในนามบัญชีแฟนข้าพเจ้าแต่มีการยกเลิกการขึ้นสินค้าแล้วทางแฟนได้โอนเงินกลับไปให้กับผู้จัดการของบริษัทนั้นแต่ผู้จัดการไม่นำเงินส่งบริษัทจึงได้มีหมายศาลว่าแฟนตกเป็นจำเลยค่ะแต่การซื้อขายก็ดำเนินมา1ปีเต็มโดยโอนเงินกลับให้ผึ้จัดการบริษัทตลอดแล้วอย่างนี้ถือว่าผิดไหมค่ะ

ไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ไม่น่าเกิดขึ้นเลย

ผู้เยี่ยมชม

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

30 ก.ค. 2556 12:52 #256


ตอบคำถามคุณภูวา
         ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องเงินเกินกว่าจำนวนของที่เอาไปได้ เพราะแลกกับการที่ไม่ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด หากผู้กระทำผิดไม่ยอมจ่ายก็ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม ส่วนผู้กระทำผิดหากไม่อยากให้มีคดีก็มักจะชดใช้ให้ตามที่เรียกร้อง แต่หากไม่มีเงินก็ปล่อยให้ดำเนินคดีอาญาไปตามขั้นตอน และไปขอจ่ายกันที่ศาลซึ่งกรณีนี้ผู้เสียหายจะเรียกเกินจากของที่เอาไปไม่ได้ แต่หากผู้เสียหายไม่ยอมความหรือไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการให้ผู้ทำผิดติดคุกหรือมีประวัติทางคดีอาญาติดตัว ผู้เสียหายก็จะไม่ยอมถอนคำร้องทุกข์ ซึ่งก็เป็นสิทธิของผู้เสียหาย ศาลไม่สามารถบังคับได้
         ส่วนเรื่องค่าแรงตามกฎหมายไม่มีสิทธิหักไว้ เพราะเป็นคนละส่วนกัน แต่หากผู้เสียหายไม่จ่ายโดยหักเป็นส่วนค่าเสียหายก็ย่อมทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย คุณก็ต้องไปเรียกร้องทางศาลแรงงานซึ่งหากเงินน้อยก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน 

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ทนายภูวรินทร์ 081-9250-144

ผู้ดูแล

ตอบกระทู้
CAPTCHA Image
Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้