ตอบคำถามคุณ MMMM
            ตามกฎหมายหากมีเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหลายราย ให้อายัดได้ทีละรายครับ ดังนั้น จึงต้องไปติดตามสืบทรัพย์สินอื่น เช่น ที่ดิน หรือสังหาริมทรัพย์อื่น เพื่อไปดำเนินการยึดมาขายทอดตลาดชำระหนี้น่าจะเป็นการดีกว่า แต่หากไม่มีทรัพย์สินอื่น ก็ต้องอดทนรอครับ

คดีที่จะขอรบกวนปรึกษา ตามที่ย่าเข้าใจนะคะ คือหลานของลูกชายคนที่เหลืออยู่ชื่อเปิ้ลกับหลานของพี่สาวย่าชื่อสรร่วมมือกัน โดยเปิ้ลมาขอยืมโฉนดที่ดินไปจำนองเพื่อขอยืมเงินจากย่า ย่าเลยไปเดินเรื่องให้และทำสัญญาจดจำนองที่กรมที่ดินท่ามะกา ผู้รับจำนองชื่อนายยรรยง โดยมีนางนภาเป็นนายหน้าจัดหา และย่าได้ตกลงกู้ในมูลค่า 70,000บาท หลังจากนั้น นางสรได้แอบไปทำเรื่องขอกู้เพิ่มจากโฉนดใบนี้อีก 550,000โดยที่ย่าไม่ทราบเรื่องและไม่ได้อนุญาต วันนึงย่าขอดูเอกสารการจดจำนองกับเปิ้ลแต่เปิ้ลเอาใบหย่ามาให้ย่าดู และหลอกย่าว่าเป็นสัญญากู้เงิน เนื่องจากย่าอ่านหนังสือไม่ได้เลยเอาไปให้หลานเขยดู จึงทราบว่า เอกสารดังกล่าวไม่ใช่สัญญากู้เงิน ย่าจึงไปติดต่อที่กรมที่ดินและพนักงานได้มาบอกย่าว่า นางสรได้แอบทำเรื่องขอกู้มากกว่าที่ย่าอนุญาต ย่าจึงมาสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เปิ้ลบอกว่า ยอดจำนอง 70,000 ผู้รับจำนองบอกว่าน้อยไปไม่สามารถทำได้ นางสรจึงแอบตกลงให้ตีราคาตามมูลค่าที่ผู้รับจำนองเห็นสมควร คือ 620,000 บาท และทำสัญญาตามมูลค่าดังกล่าว โดยเงินถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เปิ้ล 70,000 นางสร 550,000 หลังจากนั้นย่าจึงไล่สอบถามและนางสรได้ยอมรับว่าเอาเงินไปจริง และได้นำเงิน 200,000 ไปคืนให้ผู้รับจำนอง ส่วนต่างอีก 350,000 นางสรได้ทำสัญญาเงินกู้กับย่าที่บ้านกำนัน ซึ่งมีผู้ใหญ่บ้านอยู่เป็นพยานด้วย ซึ่งสัญญาที่เขียน ได้ระบุว่านางสรจะชดใช้ให้เดือนละ 5,000 จนกว่าจะครบแต่ได้หมายเหตุไว้ว่า จะรับผิดชอบทุกอย่างภายใน 1 ปี สัญญาเขียนวันที่14/08/59 หลังจากนั้นจนถึงวันนี้ ย่าได้รับเงินคืนทั้งหมด 8,000 บาท ส่วนเปิ้ลได้จ่ายคืนเกือบทั้งหมด ค้างเพียง 4,000 บาท ย่าเลยอยากฟ้องนางสรเพื่อบังคับให้ชำระหนี้ให้ย่าตามสัญญา ที่ดินที่จำนองเป็นที่ดินที่ย่าใช้อยู่อาศัยขนาด 2 ไร่ ย่าต้องตัดขายไป 1 ไร่เพื่อใช้หนี้ผู้รับจำนอง เนื่องจากอายุสัญญาใกล้หมด ปัจจุบัน ย่าเหลือที่ 1ไร่ใช้อยู่อาศัยและทำสวนตามสภาพ ไม่ได้มีรายได้จากการประกอบอาชีพใดๆ ขอสอบถามว่า การฟ้องร้องบังคับให้เขาจ่ายตามสัญญาและจะยึดทรัพย์กรณีเพิกเฉยสามารถทำให้เด็ดขาดได้หรือไม่ ทำอย่างไร กรณีนี้ถ้าจะยื่นฟ้องเป็นยักยอกหรือเป็นคดีอาญาได้หรือไม่ เพราะย่าอยากให้นางสรเกรงกลัวต่อความผิดมากกว่าคดีแพ่ง ซึ่งย่าเห็นว่าถ้าเป็นคดีที่ยินยอมหรือประนอมหนี้ได้ นางสรก็จะเพิกเฉยไม่ชำระหนี้ให้ย่าเหมือนที่ผ่านมา เงินก้อนนี้เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ย่าจะเอากินใช้ช่วงที่ย่ายังอยู่ เพราะย่าไม่มีรายได้และไม่มีลูกหลานส่งเสียดูแลค่ะ

ต้องการสอบถามค่ะ คือ มีคนรู้จักมาขอยืมเงินโดยมีทำสัญญากันไว้ แต่พอครบกำหนดต้องชำระ กลับเงียบหายไป โทรไปติดแต่ก็ไม่รับสาย ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ แบบนี้สามารถทำอย่างไรได้บ้างค่ะ

ตอบคำุถามคุณ Phoo
     เรื่องนี้ปล่อยผ่านมาเป็นเวลานานจนกระทั่งมีการดำเนินทำสัญญาชดใช้หนี้สินกันแล้ว ซึ่งความจริงควรจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการกู้เงินหรือการจดทะเบียนจำนองทั้งหมดตั้งแต่ครั้งแรก และครั้งที่สอง ว่าจะสามารถดำเนินคดีกับสรหรือผู้เกี่ยวข้องในเรื่องปลอมแปลงเอกสารหรือฉ้อโกงได้หรือไม่
    ส่วนการฟ้องคดีแพ่งนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่า เป็นการฟ้องเพื่อบังคับเอากับทรัพย์สินจากจำเลย หากจำเลยมันไม่มีอะไรให้ยึด ก็จะได้แต่คำพิพากษามาเป็นที่ระลึกเท่านั้น เอาไปใช้บังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่มีอะไรให้ยึด ซึ่งจะกลายเป็นการลงทุนที่เสียเปล่า การฟ้องคดีอาญา (หากทำได้) จะเป็นการบีบบังคับให้จำเลยชดใช้เงินคืนได้ดีที่สุด
    แต่เมื่อพิจารณาจากคำถามแล้ว มีข้อเท็จจริงและเอกสารที่เกี่ยวข้องมากพอสมควร ซึ่งการปรึกษาทนายความโดยที่ทนายไม่เห็นเอกสารทั้งหมด จะได้รับคำตอบไม่ครบถ้วนตามที่ต้องการได้ ซึ่งหากประสงค์จะฟ้องคดีอาญาควรไปคัดเอกสารหลักฐานทั้งหมดแล้วนำไปปรึกษากับทนายความเป็นการเฉพาะตัวจะได้รับคำตอบที่ดีที่สุดและจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ 
     การลงชื่อมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน หากไม่ใช้ความระมัดระวัง กฎหมายอาจถือว่าเป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง จำใจต้องรับผิดชอบตามนั้นได้ ดูตัวอย่างคดีที่เคยตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้ดังนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7906/2544
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.5, 237, 1336
        การที่โจทก์ฟ้องเพื่อติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยที่ 1 ผู้ปลอมเอกสารโดยกรอกข้อความอันเป็นเท็จลงในหนังสือมอบอำนาจซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความว่า โจทก์มอบให้จำเลยที่ 1 มีอำนาจจัดการยื่นคำขอจดทะเบียนขายที่ดินของโจทก์โดยยอมให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับโอนในนามของจำเลยที่ 1 ได้ด้วย ทำให้สามารถโอนที่ดินไปเป็นของตนเองได้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นบุคคลผู้ไม่มีสิทธิที่จะยึดถือที่ดินไว้ โจทก์สามารถฟ้องจำเลยที่ 1 ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336 แม้โจทก์จะมีส่วนประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ก็ยังมีสิทธิติดตามเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของโจทก์จากจำเลยที่ 1 ได้ ในเมื่อที่ดินนั้นยังมิได้โอนเปลี่ยนมือไปเป็นของบุคคลอื่น ยังอยู่ในวิสัยที่จะเพิกถอนการจดทะเบียนโอนขายที่ทำขึ้นโดยปราศจากอำนาจได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1
        จำเลยที่ 2 รับจำนองที่ดินพิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนแก่จำเลยที่ 1 ผู้ปรากฏชื่อเป็นเจ้าของที่ดินอยู่ในขณะนั้น แม้ขณะจดทะเบียนจำนองจำเลยที่ 1 จะมิได้เป็นเจ้าของที่ดินที่จำนอง แต่พฤติการณ์ของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจซึ่งยังไม่ได้กรอกข้อความมอบให้จำเลยที่ 1 ยึดถือไว้พร้อม น.ส.3 ก. ทั้งยังมอบสำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของโจทก์ไว้กับจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำที่เปิดโอกาสให้จำเลยที่ 1 นำเอกสารเหล่านั้นไปใช้ในกิจการอย่างอื่น ถือว่าโจทก์ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงโจทก์จะยกเอาผลที่เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของโจทก์มาเป็นมูลเหตุฟ้องร้องจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้รับจำนองโดยสุจริตหาได้ไม่ หากสุจริตด้วยกันผู้ประมาทเลินเล่อย่อมเป็นผู้เสียเปรียบ
      การที่โจทก์มาฟ้องขอให้เพิกถอนการจำนองจึงถือได้ว่าโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 และแม้ที่ดินจะต้องถูกโอนกลับไปเป็นของโจทก์นิติกรรมจำนองที่จำเลยที่ 1 ก่อไว้ย่อมตกติดมาด้วย

        คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8929/2542
       การที่โจทก์ลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจที่ยังไม่ได้กรอกข้อความนับว่าเป็นความประมาทเลินเล่อ โจทก์ไม่อาจยกความบกพร่องของหนังสือมอบอำนาจมายันให้เป็นที่เสียหายแก่ธนาคารจำเลยที่ 3 ซึ่งรับจำนองไว้โดยสุจริตได้ แต่การที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันปลอมเอกสารว่าโจทก์มอบอำนาจให้ ธ. บุตรโจทก์ขายที่ดินพร้อมบ้านให้แก่จำเลยที่ 2 แล้วจำเลยที่ 2 โอนขายต่อให้จำเลยที่ 1 จากนั้นจำเลยที่ 1 ทำจำนองไว้แก่จำเลยที่ 3 นั้น จำเลยที่ 1 และที่ 2 ก็ยังคงต้องร่วมกันรับผิดต่อโจทก์ในหนี้จำนอง และจำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกหนี้ยังคงต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 3 อยู่เช่นเดิม ศาลชอบที่จะพิพากษาให้ที่ดินพร้อมบ้านพิพาทกลับมาเป็นของโจทก์ได้โดยไม่จำต้องให้เพิกถอนนิติกรรมทุกฉบับที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการเกินจำเป็น

 

ขอปรึกษา ช่วยแนะนำ ช่วยเหลือด้วยค่ะ
เรื่องคดียาเสพติด
วันที่15พ.ค ที่ผ่านมา แฟนโดนต.ร ข้ามเขตมาจับ พื้นที่ๆอยู่ ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 กาญจนาภิเษก44 แขวงดอกไม้ ห้องที่พักเป็นของเขตอุดมสุข ต.ร ที่ข้ามเขตมาเป็น ส.น พระโขนง คุยกันยังไงก็ไม่ทราบเสียไป130000 แม่แฟนไปกู้มาช่วยลุก ตอนนี้ยังเป็นหนี้ อยู่
จ่ายเงินสด ให้ ชุดที่จับบอกจะช่วย เสียไปแสนสามนึกว่าจะปล่อยแฟนแต่ก็ไม่ปล่อยหลุด โดนอยู่ดี
ในใบคำร้องลงยาบ้า24เม็ด น้ำหนัก2.16 กรัมราคา2400ครอบครองเพื่อจำหน่าย
*เหตุเกิดบริเวณกลางซอยอ่อนนุช10แขวงสวนลวง เขตสวนหลวง(ตรงนี้ที่ลงในสำนวนเขียนขึ้นมาใหม่จากความจริง ที่จริงต.ร ไปจับที่ เฉลิมพระเกียติ ร.9 ถนนกาญจนาภิเษก
ฝากขัง7ฝากตั้งแต่วันที่17พ.ค ถึง28พ.ค60

ตอนนี้แฟนอยู่บำบัดพิเศษกลางฝากขังอยู่รอตัดสิน.เรื่องมีอีกว่า ก่อนหน้านี้แฟนเคยติดอยู่1ปี พึ่งออกมา5เดือน (มีใบแดง)
เลยวิ่งเรื่องช่วยแฟน ทำ100/2 คนแรกบอกจะช่วยมาหลอกเอาเงินไป6000แล้วก็หายไปึ ล่าสุดทนายบอกจะช่วยเรียก2หมื่น แฟนมีปค่แม่อาชีพ รับจ้างเย็บผ้า ริมถนน รายได้ไม่มาก ส่วนพ่อเสียตั้งแต่เด็ก อยู่กับแม่2คน ทนายคุยกับแม่ทีแรกแม่ไม่ยอมให้เงินก่อนลัวโดนหลอก ทนายให้หาเงินให้ก่อน10000 แม่มีแค่8000 ทนายมาเอาไปแล้วบอกจะเอาเอกสารไปให้แฟนเซ็นที่เรือนจำ แล้วจะไปแถลงตอนขึ้นศาลตัดสิน จนตอนนี้โทรหาทนายๆก็ปัดว่ารอเอกสารอยู่ยังไม่ได้ไปหาแฟนที่เรือนจำ พอถามว่าใบ100/2จะเอามาให้ตอนไหน ก็ยังไม่ได้คำตอบแน่ชัดค่ะ โดนหลอกจนไม่มีเงินไปเยี่ยมลุกชาย เพราะแม่แฟนตัองเย็บผ้าหาเงินทำ100/2ช่วยแฟน
ช่วยชี้ทางออกให้ทีค่ะ ควรจะทำไงต่อไปดี เจอแบบนี้ แม่แฟนไม่รู้ประสีประสาเท่าไหร่ โดนหลอกบ่อยมากค่ะ สงสารคนแก่ ทำงานหาเงินช่วยลุกชายแต่กลับโดนหลอกเงิน ขอบคุณค่ะ

โดน ต.ร เรียก130000 อ้างว่าจะช่วย
โดนอีก6000หลอกเงินหายไป
ทนายอีก8000เดินเรื่อง100/2 จนปานี้ยังไม่ได้ใบ100/2 ค่ะ
ขอความเป็นธรรมค่ะ ครอบครัวยากจน พ่อเสียแม่ยากจน ทนายโทรมาทุกวัน แต่พอได้ตังค์ไปก็ เงียบ อ้างนั่นนี่
คำร้อง

ตอบคำถามคุณจิ๊บ
       การที่แฟนคุณเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เมื่อถูกจับกุมดำเนินคดีก็จ่ายเงินให้ตำรวจเพื่อให้หลุดคดี มีความผิดฐานติดสินบนเจ้าพนักงานอีก เงินที่จ่ายไปจะไปเรียกร้องเอาคืนจากใครได้ ยกเว้นจะยอมเสี่ยงกับคดีติดสินบน โดยนำพยานหลักฐานการจ่ายเงินไปร้องเรียนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
      ส่วนการจะได้ประโยชน์จาก มาตรา 100/2 นั้น ในทางปฏิบัติจะต้องจ่ายเยอะมาก และปัจจุบัน ศาลมักจะไม่ค่อยเชื่อถือเพราะมีการจ่ายเงินกันแบบนี้ไง ศาลเลยไม่เชื่อ ยกเว้นกรณีที่มีการให้ข้อมูลตำรวจจนจับตัวการใหญ่ได้จริงๆ เท่านั้น ดังนั้น เรื่องจะได้ 100/2 โดยทนายความเป็นคนบอกนั้น จึงเป็นเรื่องที่ถูกหลอกเอาเงินแน่นอน
     คดีของแฟน เมื่อทำผิดจริงก็รับสารภาพไปจะดีที่สุดครับ 

ต้องการหย่ากับสามีคะ สามีเป็นคนอังกฤษจดทะเบียนสมรสมาเกือบจะสามปีแล้วคะ จดทะเบียนแบบไม่มีงานแต่ง ไม่มีสินสอด เราจดทะเบียนสมรสที่ไทย สามีจะกลับไทยทุกๆ3เดือน อยู่ไทย3เดือน อยู่อังกฤษ3เดือน วนแบบนี้ตลอดคะ ดิฉันกับสามีไม่มีลูกด้วยกัน ดิฉันมีรถจักรยานยนต์2คันเป็นชื่อดิฉันและมีบ้านพร้อมที่ดินเป็นชื่อของดิฉัน เงินใช้ซื้อทั้งหมดเป็นเงินของสามี แต่วันที่ซื้อบ้านสามีเซ็นยินยอมว่าเงินที่ใช้ซื้อบ้านพร้อมที่ดินคือเงินของดิฉันเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดิฉันกับสามีมีปัญหากันตลอดถึงขั้นขอหย่า แต่สามีมีทนายความและเขาต้องการบ้าน สามีมีสิทธิ์ที่จะเอาบ้านหรือเปล่าคะ สามีเขามีเงินจ้างทนายแต่ดิฉันไม่มี ดิฉันไม่รู้เกี่ยวกับกฏหมาย ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

สวัสดีคะ ตอนนี้มีเรื่องร้อนใจมาก ๆ คือพ่อของฉัน อายุ 71 ปี ท่านไปจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 56 ปี ระยะเวลาการจดทะเบียน แค่ 4 เดือน จาก เดือนกุมภาพันธ์ - มิถุนายน 2018 นี้ ก่อนหน้านี้ท่านไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของผู้หญิงมากนัก แต่ท่านได้ดูแลผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างดี ให้ทั้งเงินเดือน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามเหมาะสม แต่เมื่อประมาณ เดือนมิถุนายนนี้ ทางพ่อได้รู้ข่าวที่ไม่ดีหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวของเธอ และเอาเหตุการณ์ หลาย ๆ อย่างมาประกอบกัน ก็รู้สึกว่ากำลังถูกหลอก
จึงรบกวนสอบถามทางทนายว่า เราสามารถที่จะทำอะไรได้มั้งคะ เพราะตอนนี้พ่อท่านก็ต้องการที่จะถอดทะเบียนจากเธอแล้ว ขอรบกวนคุณทนายช่วยชี้ทางแนะนำให้ ครอบครัวของเราด้วยนะคะ ขอบพระคุณมาก ๆ คะ

ประกาศทราบ
​ช่วงนี้ทนายความไม่ได้เข้ามาตอบคำถามบ่อย หากมีปัญหากฎหมายที่ต้องการคำตอบเร่งด่วน รบกวนส่งคำถามมาที่อีเมลล์ phuwarinlawyer@hotmail.com หรือโทรศัพท์ หรือแอดไลน์มาพูดคุยสอบถามเบื้องต้นได้ก่อนนะครับ 
เบอร์โทร-ไอดีไลน์ 081-9250-144 (ใส่ - ด้วย)

ถ้าเป็นคดีแพ่งผมแนะนำทนายโชคเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ ประสบการณ์ส่วนตัวคือเก่ง ละเอียดมาก ถ้าเป็นฝ่ายจำเลยนี้สามารถหาช่องหลุดได้แบบเหลือเชื่อมาก เคสที่เป็นโจทก์ก็จบด้วยดีเกือบทั้งหมด (ถ้าโจทก์ไม่ได้งี่เง่าเอง) ค่าแรงอาจจะสูงนิดนึงคือ 5 หมื่น+ สำหรับคดีแพ่งทั่วไป ถ้าสู้ไหวก็แนะนำเลย แต่ผมแนะนำถ้าไม่ได้มีงบมากก็ลองโทรปรึกษา แล้วนัดประชุมเพื่อดูว่าพี่เขาแนะนำช่องทางสู้คดีทางไหนบ้าง แล้วจดรายละเอียดให้ดีๆ เอาไปให้ทนายขอแรงหรือทนายฟรีทำต่อได้ครับ เบอร์โทร O81-7O14-452 หรือเพิ่มไลน์ก็เบอร์นี้เลยครับ :-_-:

pg slot บริการ เกมสล็อต เกมส์สล็อตออนไลน์ ค่ายน้องใหม่ <a href="https://pg-slot.game/">pgslot</a> เกมที่ได้รับเสียงตอบรับจำนวนมากในหมู่นักเดิมพันออนไลน์ คุณจะพบกับรูปแบบการเล่นสล็อตในแนวตั้งที่ไม่เหมือนใคร

พอดีจะต้องไปขึ้นศาลครั้งที่2​ค่ะ​ ศาลให้เขียนคำสำนวนคำร้องคัดค้านไปขึ้นศาลในครั้งนี้ด้วย​ อยากทราบว่าจะหาทนายเขียนคำร้องคัดค้านได้ที่ไหน​ มีค่าใช้จ่ายสูงมั้ยคะ​ แล้วดิฉันสามารถเขียนเองได้มั้ย​ อย่างไร​ ขอบพระคุณ​ค่ะ

สวัสดีค่า คุณพี่ทุกๆท่านเลยจ้า หนูได้รับจดหมายโนติส โดยที่ไม่ใช่คู่กรณีไม่รู้จักกันโดยตรง รู้แค่ว่าเขาเป็นคู่กรณีเจ้านายหนูค่ะแต่เขาฟ้องหนูได้ยังไงค่ั พี่ๆช่วยแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติต่อสู้ได้มั้ยค่ะ หนูพร้อมจะสู้เพราะบริสุทธิใจค่ะ

เนื่องจากทางทีมงานทนายภูวรินทร์ติดธุระทำคดีที่ศาลต่างจังหวัดและงานคดีค่อนข้างมากในช่วงนี้ จึงไม่ได้เข้ามาตอบคำถามทางเว็บไซท์ครับ หากมีปัญหากฎหมายที่ต้องการคำตอบเร่งด่วน รบกวนส่งคำถามและรายละเอียดมาที่อีเมลล์ phuwarinlawyer@hotmail.com เป็นการส่วนตัวหรือโทรศัพท์ หรือแอดไลน์มาพูดคุยสอบถามเบื้องต้นได้ก่อนนะครับ เบอร์โทร ID line : 081-9250-144 (ใส่ - ด้วยนะครับ)

ขอบพระคุณมากครับและขออภัยในความล่าช้า