ตอบคำถามคุณสิทธิพร
      หลักกฎหมายเกี่ยวกับการฟ้องหย่าได้บัญญัติไว้ว่า หากคู่สมรสได้ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำที่เป็นเหตุหย่ากรณีไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่สมรสนั้น ฝ่ายที่ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจนั้นจะยกเป็นเหตุฟ้องหย่านั้นไม่ได้ 
      แต่ความเป็นจริง หากสามีคุณจะเอาหลักฐานมาฟ้องหย่า ก็สามารถทำได้ แต่คุณก็มีสิทธิต่อสู้คดีโดยอ้างพยานหลักฐานว่า สามียินยอมและรู้เห็นเป็นใจให้กระทำ สามีจึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่า 
      กรณีของคุณสุทธิพร ควรพิจารณาเรื่องการหย่าด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่ายจะเป็นการดีที่สุดนะครับ เพราะหากมีการฟ้องหย่าจะต้องอ้างเหตุฟ้องหย่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ซึ่งฝ่ายคุณจะตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบเพราะมีคนใหม่ และการฟ้องหย่าหากมีการต่อสู้คดีกัน ค่อนข้างใช้เวลานาน ควรตกลงหย่ากันจะดีที่่สุด ส่วนเรื่องค่าอุปการเลี้ยงดูบุตร สามารถฟ้องให้สามีชำระในภายหลังได้ตามสิทธิอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้ตกลงไว้ในบันทึกการหย่าก็ตาม 

ตอบคำถามคุณสุวนันท์
        การแยกกันอยู่ที่จะอ้างฟ้องหย่าได้จะต้องเกิดจากความสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาได้ตลอดมาเกินสามปีจึงอ้างฟ้องหย่าได้ ดังนั้น ระยะเวลาของคุณเพิ่งจะสองเดือนจึงอ้างเหตุนี้ฟ้องหย่าไม่ได้ ต่อมาเหตุที่จะอ้างได้ เช่น การทำร้ายร่างกาย หรือพฤติกรรมติดยา ด่าบุพการี เหล่านี้อ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ แต่จะต้องมีพยานหลักฐานประกอบหรือมีพยานคนกลางมาเบิกความสนับสนุนด้วย การอ้างลอยๆ ย่อมไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ 

ตอบคำถามคุณลดา
        การที่แยกกันอยู่กับสามีเป็นระยะเวลาสิบปีแล้ว สามารถอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าสามีได้ครับ แต่การฟ้องหย่าจะต้องกระทำโดยทนายความร่างฟ้องและเอกสารต่างๆยื่นต่อศาล ดังนั้น อธิบายไปก็ไม่สามารถนำไปฟ้องหย่าเองได้ ผมแนะนำให้ติดต่อหาทนายความใกล้บ้านในจังหวัดที่เป็นสถานที่อยู่กินกัน เพื่อฟ้องหย่าที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนั้น เมื่อทนายความยื่นฟ้องแล้ว ศาลจะนัดพิจารณาคดีหลังจากยื่นฟ้องประมาณ 45-60 วัน หากสามีได้รับหมายศาลแล้ว หรือถือว่าได้รับหมายแล้ว ไม่มาศาล ศาลก็จะสืบพยานไปฝ่ายเดียว และหากข้ออ้างนั้นรับฟังได้ (ตามพยานหลักฐานที่นำสืบต่อศาล) ศาลก็จะพิพากษาให้หย่ากัน จากนั้นเมื่อได้คำพิพากษาแล้ว ก็นำไปจดบันทึกการหย่าที่อำเภอได้เองฝ่ายเดียวครับ

สวัสดีคะ ดิฉันเจนคะ

คือดิฉันจดทะเบียนสมรสกับสามีเพราะเรื่องงานประกัน คือสามีโดนตัดสัญญาจากตัวแทนประกันชีวิต และสามีมีตัวแทนต่อรหัสหลายคน ดิฉันจึงจดทะเบียนสมรสเพื่อรับผลงานของสามีต่อทุกอย่าง ตอนจดทะเบียนสมรสเราไม่ได้แจ้งทรัพย์สินใดๆทั้งสิน และเมื่อธันวาคม 60 ดิฉันนำโฉนดที่ดินที่ไปกู้ธนาคาร เพื่อมาเปิดร้านขายปลาเผาให้สามี เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท พอได้เงินมา ดิฉันก็ลาออกจากงานขายประกันชีวิต และได้งานทำใหม่ที่โรงแรมแห่งนึง เป็นพนักงานต้อนรับ หลังจากที่กู้เงินมา สามีดิฉันไม่เคยช่วยจ่ายดอกเบี้ยธนาคารเลยจนถึงปัจจุบันนี้ แถมยังกู้รายวัน จนไ่ม่สามรถดำเนินธุรกิจเล็กๆได้ และเมื่อสิ้นเดือนเมษายน 60 สามีดิฉันหนีดิฉันไปทำงานกอสร้าง และไม่เคยส่งเงินให้ดิฉันจนถึงปัจจุบัน และเมื่อเดือนมิถุนายน 60 ธนาคารมาแจ้งกำหนดยึดบ้าน เพราะตั้งแต่กู้มาไม่เคยได้จ่ายดอกเบี้ยธนาคารเลย ดิฉันจึงตัดสินใจไปทำงานที่พัทยา และดิฉันได้สามีใหม่เป็นชาวต่างชาติ และตอนนี้ดิฉันเสนอให้สามีมาหย่าให้ แลกกับจ่ายหนี้ให้กับสามีเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท แต่สามีดิฉันไม่ยอม สามีเรียกร้องเงินสองแสนบาท แต่ตอนที่แต่งงาน ดิฉันใช้เงินเดือนของดิฉันแต่งด้วยเงิน 10,000 บาท แล้วแบบนี้ ดิฉันฟ้องหย่าสามีตามข้อ 6 ได้ไหมค่ะ เพราะถ้าดิฉันไม่ไปทำงานที่พัทยา บ้านดิฉันคงถูกยึดไปแล้ว

เพิ่มเติมค่ะ สามีสามารถฟ้องดิฉันกลับได้ไหมค่ะ ในเมื่อตั้งแต่จดทะเบียนสมรสมา เราสองคนไม่มีทรัพย์สินอะไรเพิ่มเลย มีแต่หนี้สิน และสามีไม่ช่วยจ่ายเลย แถมเวลาอารมณ์ไม่ดีก็มักจะด่าพ่อของดิฉันตลอด เราสองคนไม่มีลูกค่ะ รบกวนตอบกลับที่ email ด้วยนะคะ

จะสามารถถฟ้องหย่าได้ไหมค่ะ สอบถามข้อมูลน่ะค่ะ พอดี อยากจะอย่ากะแฟนค่ะ แต่แฟนไม่ยอมอย่าให้ค่ะ แต่งงานมาสองปีแล้วค่ะ แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ หนูทำงานอยู่กรุงเทพ เป็นพยาบาลค่ะ ส่วนแฟนอยู่ร้อยเอ็ด มีอาชีพทำนา มีรายได้จากการขายข้าว แค่ปีละครั้ง
หนูอยากจะอย่า เพราะ เหตุผลต่อไปนี้ค่ะ
1. แฟนไม่อสามารถเลี้ยงดูหนูได้ เพราะไม่มีอาชีพที่เป็นประจำ ไม่เคยให้ตังค์ใช้
2.ภาระทุกสิ่งอย่าง ตกที่หนูคนเดียว เช่น ค่าผ่อนรถยนตร์ เดือนละ 9561 บาท หนูเป็นคนผ่อน ตั้งแต่ แต่งงานค่ะ คือเดือน มีนาคม 2558 ค่ะ เวลาหนูกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด หนูเป็นคนรับผิดชอบ ออกทุกบาททุกสตางค์ค่ะ
3.แฟนชอบดูถูก เหยียดหยาม ครอบครัวหนูค่ะ ชอบว่า พ่อ แม่ พี่สาวค่ะ
ปล.รถยนตร์เป็นชื่อหนูค่ะ หนูขออย่ากะแฟนดีดี ไม่เอาอะไรด้วยสักบาทค่ะ ขอให้หย่าให้แค่นั้นค่ะ แต่แฟนไม่ยอมอย่าค่ะ
แบบนี้ หนูจะฟ้องหย่าได้มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณทนายภูวรินทร์
ดิฉันอยากทราบว่าหากจดทะเบียนแล้วเลิกกันเป็นเวลา8ปีต้องการหย่าแต่ติดต่อกันไม่ได้ มีทางใดที่จะจดทะเบียนหย่าได้บ้างคะ

อยากสอบถามว่ามีท่านใดเคยฟ้องหย่า และฟ้องแล้วผลออกมาอย่างไรบางคะ.

ดิฉันกับสามีคบหากัน4ปีจดทะเบียนสมรถกัน ปีที่4ดิฉันป่วยหนักมากต้องกลับมาอยู่บ้านตนเอง แต่เมื่อดิฉันหายดีจะกลับไปอยู่กับสามีที่บ้านพ่อแม่เขา สามีก็ไม่ยอมอ้างว่าดิฉันป่วยไม่สามารถรักษาที่จังหวัดบ้านเขาได้ และเราก็มีการทะเลาะกันตลอด และเขาก็บอกว่าตอนนี้ทางครอบครัวเขาไม่ยอมรับดิฉันแล้ว และเขาก็ไม่ได้รักดิฉันแล้ว เขาต้องการหย่า ถ้าดิฉันไม่หย่าเขาจะฟ้องหย่าค่ะ เขาจะฟ้องว่าดิฉันประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทำให้เขาเสียการเสียงาน ซึ่งตลอดระยะเวลา1ปี เขาไม่เคยมาเยี่ยมดิฉันเลย และไม่ยอมให้ดิฉันไปหาด้วย ดิฉันไม่ยอมหย่า ดิฉันยังรักเขาอยู่ ดิฉันอยากทราบว่าเขาสามารถฟ้องหย่าดิฉันได้มั้ยค่ะ และสามารถทำให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันรับผิดชอบดิฉันได้รึป่าวค่ะ ขอบคุณค่ะ

ประกาศทราบ
​ช่วงนี้ทนายความไม่ได้เข้ามาตอบคำถามบ่อย หากมีปัญหากฎหมายที่ต้องการคำตอบเร่งด่วน รบกวนส่งคำถามมาที่อีเมลล์ phuwarinlawyer@hotmail.com หรือโทรศัพท์ หรือแอดไลน์มาพูดคุยสอบถามเบื้องต้นได้ก่อนนะครับ 
เบอร์โทร-ไอดีไลน์ 081-9250-144 (ใส่ - ด้วย)

สวัสดีค่ะ
สอบถามค่ะ ต้องการให้ลูกมาใช้นามสกุลแม่โดยที่พ่อแม่ยังไม่ได้หย่ากัน และต้องการเลี้ยงดูลูกคนเดียวค่ะ แต่เหตุผลไม่น่าจะพอ เพราะแฟนชอบเที่ยว ไม่เอาลูก ไม่มีเงินเก็บ ให้ลูกเดือนละ 1000 ไม่มีเงินพอกินในแต่ละเดือน บัญชีก็ไม่มีเหลือ กินแต่ละวันเราก็ต้องเป็นจัดการ ไม่ทราบว่าจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างที่จะหย่ากันแบบยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย และขอรับรองบุตรเพียงคนเดียว ตอนนี้แฟนอาศัยอยู่บ้านฝ่าย ญ มาประมาณ 3-4 ปี ยังไม่เห็นว่าจะสามาาถสร้างอนาคตหรือเลี้ยงดูลูกได้ เอาเงินไปเที่ยว และเสียกับค่าเหล้าค่ารถมอเตอร์ไซต์หมด ไม่มีเงินเก็บ เราต้องเป็นคนจัดการเงินเดือนของเค้า ต้องกาาเลิกกันโดยดี และให้เรารับทุกอย่างไว้ ต้องทำยังไงบ้างค่ะ

อยากทราบว่าถ้าญาติผู้ใหญ่ทางสามีอยากให้เรากะสามีหย่ากันเหตุผลเพราะว่าไม่ชอบเราเขามีสิทธ์ฟ้องหย่าอะไรมั้ยคะ