คดีหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต กับ บทลงโทษที่โลกโซเชียลต้องรู้ คดีหมิ่นประมาททางอินเทอร์เน็ต ที่มีลักษณะการโพสต์ประจานในโซเชียลมีเดียมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทะเลาะกันด้วยสาเหตุต่างๆ แล้วโพสต์ข้อความใส่ร้ายหรือประจานคู่กรณี, เรื่องชู้สาว หรือทำการตัดต่อภาพเพื่อให้สาธารณชนเข้าใจผิด หากบุคคลที่ได้รับความเสียหายเป็นบุคคลสาธารณะ เช่น นักการเมือง ดารา นักร้อง นักธุรกิจ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงทางสังคม ก็จะได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เมื่อการหมิ่นประมาทกระทำโดยเครื่องมือสื่อสารสังคมออนไลน์ดังกล่าว ความเสียหายจึงกระจายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการกระทำผิดโดยการโพสต์ประจานในโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น ก่อให้เกิดความไม่สงบสุขในสังคมแห่งการออนไลน์
วิธีจัดการทั้งคนหมิ่นและคนโดนประจาน คนที่ถูกโพสต์หมิ่น หรือเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการโพสต์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือเก็บรวบรวมพยานหลักฐานการกระทำผิดให้ได้มากที่สุด ไม่ควรด่าหรือโพสต์ประจานโต้ตอบ แต่ให้อธิบายชี้แจงความจริงเพื่อรักษาชื่อเสียงเบื้องต้นเท่านั้น จากนั้นก็นำพยานหลักฐานดังกล่าวไปแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้ที่กระทำผิดโพสต์ประจานผู้อื่น หากเป็นเพียงความผิดฐานหมิ่นประมาท และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 ซึ่งเป็นความผิดที่สามารถเจรจาตกลงประนีประนอมยอมความกันได้ ก็ควรสำนึกผิดและขอโทษผู้เสียหายโดยปฏิบัติตามเงื่อนไขการเจรจาให้ครบถ้วน ผู้เสียหายก็อาจถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้องได้ แต่ในส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. 2550 มาตรา 14 เป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความกันได้ คือไม่สามารถถอนคำร้องทุกข์หรือถอนฟ้องได้ แต่ก็ยังมีทางออกด้วยการสำนึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายจากการกระทำ ศาลย่อมเมตตาลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษไว้ก่อนเพื่อให้โอกาสไม่ต้องถูกจองจำ แต่หากต่อสู้คดีก็อาจได้รับโทษจำคุกสูงกว่าการรับสารภาพ ดังนั้นก่อนที่จะโพสต์ข้อความใดๆ ที่มีลักษณะพาดพิงหรือเป็นการใส่ความบุคคลอื่นไม่ว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งขึ้นมาใส่ร้ายป้ายสีกันลงในโซเชียลมีเดีย โดยมีเจตนาไม่สุจริต จึงควร “ตั้งสติคิดให้รอบคอบ”ก่อนโพสต์หรือก่อนกดแชร์ส่งต่อ นั่นเพราะบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการโพสต์หรือกดแชร์อาจแจ้งความกล่าวหาหรือฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาเพื่อให้ได้รับการจำคุก เป็นเหตุให้ต้องมีประวัติกระทำผิดอาญา “บางคนถึงกับต้องสูญเสียโอกาสในการทำงาน” เพราะมีประวัติกระทำผิดอาญาดังกล่าว นอกจากนี้ “ผู้เสียหาย” ก็ยังมีสิทธิ์ฟ้องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายทางแพ่งอีกด้วย หากผู้เสียหายมีชื่อเสียงหรือเกียรติคุณทางสังคมสูง ค่าเสียหายก็จะสูงตามไปด้วย ฉะนั้น อย่าคิดโพสต์แค่เพียงความสะใจ เพราะอาจจะเสียใจภายหลังก็ได้ครับ อ่านต่อได้ที่ http://astvmanager.com/SpecialScoop/ViewNews.aspx?NewsID=9590000043140 ********************************************************* หากคุณมีปัญหาและต้องการคำปรึกษาด้านกฎหมาย เพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ ทนายภูวรินทร์ ทองคำ โทร.081- 9250-144 E-Mail : Phuwarinlawyer@hotmail.com http://www.phuwarinlawyer.com/